ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 70s โลกของดนตรีพกพายังไม่ได้ถูกนิยามชัดเจน ไม่มีอุปกรณ์ไหนที่สามารถให้เราฟังเพลงในขณะที่เดินทางได้สะดวก จนกระทั่ง Sony ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเทปพกพาที่เปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างสิ้นเชิง
แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเครื่องนี้ถึงถูกเรียกว่า “Walkman” คำตอบนั้นเริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การฟังเพลงโดยสิ้นเชิง แนวคิดหลักที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Walkman คือการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถพกพาได้ง่าย น้ำหนักเบา และให้ผู้คนสามารถฟังเพลงได้ในขณะเดินทาง
นี่คือที่มาของชื่อ “Walkman” ที่เกิดจากการผสมคำว่า “Walk” ซึ่งหมายถึงการเดิน และ “Man” ที่สื่อถึงคนทั่วไป การรวมสองคำนี้สะท้อนถึงจุดประสงค์ของเครื่องที่ทำให้ผู้ใช้สามารถพกเพลงโปรดติดตัวไปทุกที่ได้ ไม่ว่าคุณจะเดิน ขี่จักรยาน หรือแม้แต่นั่งเล่นในสวนสาธารณะ
Sony ไม่ได้เพียงแค่สร้างเครื่องเล่นเทป แต่พวกเขายังเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับดนตรีอย่างลึกซึ้ง ก่อนการมาถึงของ Walkman การฟังเพลงมักจะถูกจำกัดไว้ที่บ้านหรือในรถที่ติดตั้งเครื่องเล่นเทปขนาดใหญ่
แต่เมื่อ Walkman มาถึง ทุกคนสามารถพกพาเพลงไปได้ทุกที่ เสียงเพลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เป็นดนตรีประกอบในชีวิตจริง ที่คุณสามารถสร้างเองได้
การพัฒนาที่เกินความคาดหมาย ย้อนกลับไปที่ทีมพัฒนา Walkman ของ Sony หลายคนไม่เชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้จะประสบความสำเร็จ เนื่องจากในช่วงนั้นการฟังเพลงยังถือเป็นกิจกรรมร่วมกัน แต่ Walkman สร้างนิยามใหม่ให้กับการฟังเพลงแบบ “ส่วนตัว”
มันกลายเป็นแฟชั่น สัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการอิสระในการฟังเพลงตามความชอบของตนเอง
Walkman: ไอคอนที่ยังคงอยู่ แม้ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่ชื่อ Walkman ยังคงเป็นที่จดจำในฐานะนวัตกรรมที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์การฟังเพลงอย่างแท้จริง มันไม่เพียงแค่เครื่องเล่นเทปพกพา แต่เป็นการประกาศอิสรภาพในการฟังเพลงของคนรุ่นใหม่
การฟังเพลงที่ไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน Walkman จะพาคุณและเพลงโปรดของคุณไปได้ทุกที่
นั่นคือเหตุผลที่คำว่า “Walkman” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อของเครื่องเล่นเทป แต่มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย