อดีตศิลปินนักร้องก็อปปี้โชว์ที่โด่งดังมากของไทย ในยุคตลกคาเฟ่ และเคยมีอัลบั้มกับวง Hotdog ในสังกัด Gmm Grammy มีเพลงฮิตติดหูวัยรุ่นในช่วงนั้น อย่างเช่นเพลง ซัดเราถึงตาย เป็นต้น
แต่แล้วชีวิตที่ไม่มีอะไรแน่นอนก็ต้องทำให้เขาเดินทางมาถึงจุดตกต่ำ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์เองกับสื่อ Apop Today ยอมรับเลยว่า ตนเอง “ตกอับ” ตั้งแต่ก่อนโควิดก็ไม่ได้ทำงานในวงการเลย
อาศัยใช้เงินเก่าที่เก็บมา และเขาใช้คำว่า “เกาะเมียกิน” เนื่องจากยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป ทำให้อาชีพที่เคยรุ่งเรือง ต้องนับถอยหลังสู่จุดตกต่ำ เคยมีรถมีบ้านมีที่ดิน และปัจจุบันก็ขายไปเกือบหมดแล้ว เหลือไว้เพียงสิ่งจำเป็นเท่านั้น
เจ้าตัวเผยปัจจุบันไม่อยากกลับมาร้องเพลงอีกแล้ว เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หากร้องเพลงเสียงสูง หรืออยู่บนเวทีนาน เขาจะเกิดอาการปวดหัว และกลัวที่จะเป็นอะไรไปบนเวที จึงเลือกที่จะหันหลังให้กับการร้องเพลง แต่ก็ยังคงคิดถึงวงการบันเทิงอยู่
ประวัติคร่าวๆของ “ไมเคิ่น ตั๋ง”
รุ่งโรจน์ นิจรันธ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไมเคิ่น ตั๋ง เป็นนักลอกเลียนแบบการแสดงของศิลปินดังๆ ซึ่งเขาได้สร้างชื่อเสียงในอุตสาหกรรมศิลปินไทยด้วยความสามารถในการเลียนแบบนักร้องดังต่างๆ
ก่อนที่จะมีชื่อเสียงในวงการศิลปิน, ไมเคิ่น เคยทำงานในหลากหลายอาชีพ เช่น วินมอเตอร์ไซค์, พนักงานเสิร์ฟอาหาร และร้องเพลงในคาเฟ่ ในยุคที่ทำงานเหล่านี้ เขามีรายได้ประมาณ 4,500 บาทต่อเดือน แต่เมื่อเขาเริ่มเลียนแบบไมเคิล แจ็กสัน ซึ่งทำการเลียนแบบทั้งเสื้อผ้า, หน้า, ผม และท่าทาง เช่น ท่าเต้นมูนวอล์ก และท่าลูบเป้า เขาก็ได้เพิ่มรายได้ขึ้นถึง45,000 บาทต่อเดือน
ไม่เพียงเท่านั้น, ไมเคิ่น ยังมีผลงานในรูปแบบอัลบั้มคาราโอเกะ หนึ่งในผลงานคือ อัลบั้ม “อีรวม” ภายใต้สังกัด เอส. เอ็น. อาร์ท โปรโมชั่น นอกจากนี้ เขายังเคยร่วมกับค่าย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในนามวง hotdog และมีเพลงฮิตที่โดนใจวัยรุ่นในยุคนั้น มากมาย อย่างเช่น เพลง “ซัดเราถึงตาย” และ “ลืมเลือน”