“ดิ อินโนเซ้นท์” เป็นวงดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 80s พวกเขามีผลงานเพลงในช่วงระหว่างปี 2523-2532 โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายนิธิทัศน์ โปรโมชั่น
ดิ อินโนเซ้นท์ ก่อตั้งขึ้นจากสมาชิก 3 คนเริ่มต้นจากการเป็นวงดนตรีโฟล์คซองในโรงเรียนดรุณา จังหวัดราชบุรี และในภายหลังกลายเป็นวงดนตรีสตริงคอมโบ ภายใต้การนำของหัวหน้าวงอย่าง พีรสันติ จวบสมัย เขามีบทบาทสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ยาวนานในด้านดนตรีของวงดิ อินโนเซ้นท์ จนถึงปัจจุบัน
วงเดินทางมาอย่างยาวนาน ผ่านความสำเร็จมากมาย มีสมาชิกวงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละช่วงเวลา สมาชิกหลักๆได้แก่ สายชล ระดมกิจ, ชาตรี คงสุวรรณ, พีรสันติ จวบสมัย, เสนีย์ ฉัตรวิชัย เป็นต้น ส่วนอดีตสมาชิกคือ สิทธิศักดิ์ กิจเต่ง ปฏิภาณ สุขสุทธิ, เกรียงศักดิ์ จงธีระธรรม, ไชยรัตน์ ปฏิมาปกรณ์, เกียรติศักดิ์ ยันตะระประกรณ์
และหลังจากผลงานอัลบั้ม 10 นาฬิกา (พ.ศ. 2532) วงได้ทัวร์คอนเสิร์ตจำนวนมาก อัลบั้มนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง จนมาถึงจุดหนึ่งที่สมาชิกแต่ละคน มีภาระหน้าที่ของตัวเองที่แตกต่างกันไป จึงทำให้วงต้องแยกย้ายกัน
โอม – ชาตรี คงสุวรรณ เคยทำงานในห้องอัดเสียงและควบคุมการผลิตเพลงสำหรับศิลปินในแกรมมี่ และเป็นเจ้าของค่ายเพลง “อาร์พีจี” ก่อนลาออกและสร้างค่ายเพลงและโปรดักชั่นเฮ้าส์ “คราฟแมน เรคคอร์ด” และ “มิสเตอร์ มิวสิก” เขายังทำหน้าที่แต่งเพลงสำหรับศิลปินในห้องอัดเสียงและเป็นโปรดิวเซอร์และ Music Director ในรายการเรียลลิตีโชว์ “ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย” ในปลายปี พ.ศ. 2550 เขาออกอัลบั้มเดี่ยวเป็นครั้งแรกที่ชื่อว่า “Into The Light” และได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมจากสีสันอะวอร์ดในปี 2552
พีรสันติ จวบสมัย เป็นนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่ร่วมงานกับศิลปินต่าง ๆ และทำเพลงโฆษณาและประกอบภาพยนตร์ อีกทั้งออกอัลบั้ม “Together” ที่เป็นผลงานแต่งเพลงและร้องเอง มีการเชิญนักร้องมากมาย เช่น ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว, โรสแมรี่ คาฮันดิง, ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน, วงพองพอง และสายชล ระดมกิจ เพื่อร่วมร้องในเพลง “ดึกก็กลับ”
สายชล ระดมกิจ เปลี่ยนจากศิลปินเป็นศิลปินเดี่ยว และออกอัลบั้มเดี่ยวในสังกัดเบเกอรี่มิวสิค โดยนำเพลงเก่าของวง ดิ อินโนเซ้นท์ มาทำใหม่ในอัลบั้ม “A Touch of the Innocent” (พ.ศ. 2539) และออกอัลบั้มเดี่ยวอีกชุดหนึ่งในสังกัดเบเกอรี่มิวสิค โดยมี พีรสันติ จวบสมัย เป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้ม “Portrait of the Innocent” (พ.ศ. 2541) ที่บอย โกสิยพงษ์ ชวนมาทำ จากนั้นสายชลก็ดูแลศิลปินในค่ายเบเกอรี่มิวสิคและเป็นค่ายเพลงเลิฟอีส (LOVEiS) ปัจจุบัน
เสนีย์ ฉัตรวิชัย หันไปทำธุรกิจส่วนตัว ยังเล่นดนตรีอยู่บ้างตามโอกาส
สิทธิศักดิ์ กิจเต่ง ก่อตั้งวงดนตรีใหม่ “ซัคเซส” หลังจบการศึกษาในราชบุรี ออกอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวง ภายใต้สังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่น มีเพลงฮิตอย่าง “แรงรัก”, “ฤทธิ์รัก”, “ใครหนอใคร”, และ “รักมั่นคง” ในอัลบั้มใหม่ “แด่ที่รัก” วง “เพื่อน” ได้ร้องใหม่
ส่วนเกียรติศักดิ์ ยันตะระประกรณ์ เป็นนักดนตรีที่ยังเล่นดนตรีกลางคืนและเป็นดนตรีแบ็คอัพสำหรับศิลปินทั้งในห้องอัดและคอนเสิร์ตในปัจจุบัน นอกจากนี้เขายังมีการทำงานในสภากาชาดไทย
แม้ว่ามาถึงตอนนี้ วงจะได้แยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดแล้ว แต่แล้วตอนนี้พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และจัดคอนเสิร์ตใหญ่ให้แฟนๆได้หายคิดถึง กับ The Innocent Concert 40 ปี ของพี่กับน้อง จะจัดขึ้นในวันที่ 22 กรกฎาคม 2566 หากแฟนๆสนใจสามารถติดต่อหาซื้อบัตรกันได้ แฟนตัวจริงไม่ควรพลาดนะครับ
เรียบเรียง เพลงไทยยุค 80-90
ภาพ TheInnocentBandSociety